News & Events

“กะทิอัมพวา” เป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับจานอร่อย

      สารพัดเมนูคาวหวานยอดฮิต ล้วนมี “กะทิ” เป็นวัตถุดิบสำคัญ ความหอม หวาน มันอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยให้อาหารจานเด็ดมีรสชาติกลมกล่อม ชวนรับประทาน อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ และสารอาหารที่จำเป็นแก่ร่างกายจนได้รับการยกย่องให้เป็นวัตถุดิบหลักคู่ครัวไทย ล่าสุดกะทิ 100 เปอร์เซ็นต์ ตรา “อัมพวา” เดินหน้าสนับสนุนมืออาชีพให้แก่สถาบันสอนทำอาหารชั้นนำ เพื่อให้นักศึกษาที่จะก้าวขึ้นไปเป็นเชฟมืออาชีพในอนาคต พร้อมไขเคล็ดลับในการปรุงอาหารจานอร่อยจากกะทิกับ อ.นันท์ยง เฟื่องขจรฟุ้ง หัวหน้าสาขาอุตสาหกรรมอาหารและการบริการ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

       อ.นันท์ยง เปิดเผยว่า การปรุงอาหารด้วยกะทิต้องใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกมะพร้าวที่จะต้องมีความแก่จัด และคั้นสดทันทีจึงจะได้กลิ่นหอมและคุณค่าทางอาหาร ตลอดจนการเลือกใช้กะทิในการปรุงอาหารให้ถูกวิธี เพราะกะทิมีความเข้มข้น หอม และมัน แตกต่างกัน เช่น หัวกะทิ ที่ได้จากการคั้นกะทิครั้งแรก จะเข้มข้น และมันมากกว่า และหางกะทิ ที่ได้จากการคั้นในครั้งที่ 2 และ 3 ดังนั้นการปรุงอาหารจากกะทิจึงมีเทคนิคง่ายๆ เพียงแค่เลือกใช้กะทิให้เหมาะสมกับเมนู เช่น เมนูที่ต้องการความมันเป็นพิเศษ ก็เลือกใช้หัวกะทิเป็นหลัก เช่น ข้าวเหนียวมูน แกงฉู่ฉี่ และในเมนูที่ไม่ได้เน้นความมันมากนักก็เลือกใช้หางกะทิ หรือใช้หางกะทิและหัวกะทิผสมกัน เช่น ยำทวาย ผักลวกกะทิ เป็นต้น

       เพื่อเป็นการพิสูจน์ความสดอร่อยและได้มาตรฐานของกะทิแท้ วันนี้จึงพาไปกระทบไหล่ว่าที่เชฟคนเก่ง “น้องบิว” อนุทัย สังข์ทอง นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาอุตสาหกรรมและการบริการ คณะวิทยาศาสตร์ฯ มรภ.สวนสุนันทา เจ้าของรางวัลชมเชยในงาน ฟู้ด แอนด์ โฮเทล 2016 มาร่วมโชว์เมนูเด็ดพร้อมเคล็ดลับเมนูจากกะทิกับ “ข้าวยำสมุนไพร ทานคู่กับ ฉู่ฉี่ปลากะพงทอดกรอบ” หนึ่งในเมนูที่คว้ารางวัลมาครอง โดยน้องบิวเล่าให้ฟังว่า เมนูนี้แฝงไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย แถมให้รสชาติที่กลมกล่อมและลงตัว เคล็ดลับง่ายๆ คือการเลือกสรรวัตถุดิบที่ดี สดใหม่ และมีคุณภาพ

       “วิธีการทำไม่ยุ่งยาก เริ่มต้นจากการทำข้าวยำก่อน พิถีพิถันตั้งแต่การหุงข้าวด้วยน้ำดอกอัญชันทำให้ข้าวมีสีม่วงคราม จากนั้นจึงเตรียมน้ำปรุงรสสมุนไพร โดยใช้ตะไคร้ ข่า มะกรูด เต้าเจี้ยวปั่น เติมน้ำเล็กน้อย ตั้งไฟแล้วปรุงรสตามชอบ นำน้ำยำที่เคี่ยวได้ที่มาคลุกเคล้ากับข้าว พร้อมด้วยบรรดาเครื่องเคียงต่างๆ เช่น ถั่วฝักยาว ถั่วงอก ส้มโอ งาขาว พริกป่น ใบชะพลูหั่นละเอียด มาที่ฉู่ฉี่ปลากะพงทอดกรอบ ทอดปลากะพงในน้ำมันเดือดๆ จนเหลือง สุก แล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน ในส่วนของซอสฉู่ฉี่เริ่มจากผัดพริกแกงให้หอม และค่อยๆ เติมกะทิผัดจนแตกมัน ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาล แล้วจึงเติมใบมะกรูดลงไปผัดต่ออีกนิด แล้วปิดไฟ นำซอสฉู่ฉี่ที่ได้มาราดปลาที่เราทอดเตรียมไว้แล้วจัดตกแต่งจานให้สวยงาม” ว่าที่เชฟคนเก่งแนะนำ

ที่มา : http://ads.komchadluek.net/news/women/250407